หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2555

พื้นฐาน การลงทุนคอนโด

sharesdondo
           การลงทุนในคอนโด กำไรหรืออาจขาดทุนแต่โดยปรกติผมไม่เคยขาดทุนเรื่องคอนโดเลย เพราะถ้าไม่ได้ราคาก็ไม่ขาย ไม่ซื้อ.. จึงอยากให้คุณรู้พื้นฐานการลงทุนก่อนที่ลงลึกถึงเรื่อง การลงทุนในคอนโด  การลงทุนในแต่ละอย่าง  เราจะต้องรู้หลักพื้นฐานของการบริหารเงิน  หรือการลงทุนเสียก่อนว่ามีอะไรบ้างผมจะแนะนำสิ่งที่สำคัญให้รู้จักกันครับ

           ถ้าคุณตัดสินใจที่จะอยู่ในโลกที่ซับซ้อนของสังคมโลกาภิวัตน์ ผมแนะนำว่าคุณควรเรียนรู้วิชาเหล่านี้ ได้แก่

           1. การลงทุนพื้นฐาน
           2. การลงทุนแบบมีชั้นเชิง

          ทันทีที่คุณรู้สึกว่าคุณได้เรียนรู้เกี่ยวกับการลงทุน ทั้ง 2 เรื่องนี้เมื่อนั้นคุณอาจจะออกมาลองเจอของจริงข้างนอกและลงทุนเล็กน้อยด้วยเงินจริงของคุณ ในไม่ช้าคุณจะได้เรียนรู้และฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง คุณจะได้เดินทางรอบโลกทั้งทางอินเตอร์เน็ต และในโลกจริง และเล่นเกมที่ตื่นเต้นที่สุดในโลก นั่นคือ เกมการเงิน

ขอบคุณหนังสือ ( WHY WE WANT YOU TO BE  RICH BY DONALD J. & ROBERT T. เรียบเรียง โดย  โอฬาร ภัทรกอบกิตติ์
และ กานต์สินี กฤษฎาวงศ์มณี)


 การลงทุนพื้้นฐาน


                              ผลตอบแทนและความเสี่ยง

          ผลตอบแทนในที่นี้หมายถึงผลตอบแทนจากการนำเงินไปลงทุน  ซึ่งความแตกต่างของผลตอบแทนเพียงนิดเดียว  แต่หากเปรียบเทียบกันเป็นระยะเวลาที่นาน  มันมีผลรับตอบเป้าหมายความรวยของเราอย่างเห็นได้ชัด  

ตัวอย่าง  นายก.  เก็บเงินเพื่อการเกษียณทุกเดือน  เดือนละ  1,000 บาท  เป็นเวลา  25  ปี  ถ้านาย ก.  ใช้วิธี  เก็บไว้ในตุ่ม  ฝังดินเอาไว้  ใน 25 ปี  นาย ก.  จะมีเงิน  1,000 x 12 x 25  =  300,000  บาท  แต่หากนำเงินออมไปลงทุน  ในแบบต่าง  จะมีผลสุดท้ายที่แตกต่างกันดังนี้

         -  หากผลตอบแทนการลงทุนเป็น   5% ต่อปี  จะมีเงินออมใน  25  ปีข้างหน้า   =    600,000  บาท
         -  หากผลตอบแทนการลงทุนเป็น   8% ต่อปี  จะมีเงินออมใน  25  ปีข้างหน้า   =    980,000  บาท
         -  หากผลตอบแทนการลงทุนเป็น 12% ต่อปี  จะมีเงินออมใน  25  ปีข้างหน้า  =   1,870,000  บาท

          ดังนั้นหากจะพูดกันง่ายๆ ทุกคนต่างต้องการผลตอบแทนที่มากที่สุด  เท่าที่จะทำได้  แต่ในทางทฤษฎี  และในทางปฏิบัติจริง  การลงทุนใดๆ  ยิ่งมีผลตอบแทนมาก  ยิ่งมีความเสี่ยงมาก

                             ผลตอบแทน &  ความเสี่ยง

          ความเสี่ยงในที่กล่าวถึง  หมายความว่า  คุณมีโอกาสที่จะได้  ผลตอบแทนที่ต่ำกว่าที่คิด หรืออาจจะขาดทุนได้  เช่น  การลงทุนในคอนโด  ที่ได้ชื่อว่ามีสภาพคล่องมากกว่าการลงทุนซื้อบ้าน  แต่คนที่เล่นคนซื้อคอนโดบางคนก็ขาดทุนเพราะเหตุปัจจัยต่างๆ แต่หากคุณมีการศึกษาและเข้าใจในสิ่งที่คุณลงทุนอย่างถ่องแท้แล้ว  ความเสี่ยงจะลดลง  และผลตอบแทนอาจจะมากขึ้นได้ตามประสบการณ์  และความชำนาญที่เพิ่มขึ้น  แต่คุณอาจต้องลงทุนเวลาบ้างเพื่อศึกษาการลงทุนต่างๆ

                            ความเสี่ยง  คืออะไร


            หลายคนคงเคยได้ยินคำนี้ว่า "การลงทุนคือความเสี่ยง" แล้วความเสี่่ยงมันคืออะไร  ความเสี่ยงจริงๆ  มันคือโอกาสที่จะขาดทุน  หรือ  โอกาสที่จะไม่ได้กำไร หากคุณสนใจความเสี่ยงในการ ลงทุนคอนโด ในช่วงดาวน์เพื่อเก็งกำไร  หากขายไม่ออกนั่นคือความเสี่ยงในการขาดทุน  

       
                            ระดับความเสี่ยงที่เหมาะสม

              คนเราแต่ละคนมีความกลัวความเสี่ยงที่แตกต่างกัน  บางคนบอกว่า คนรวยจะกล้าเสี่ยงมากกว่า  เพราะมีเงินเยอะเสียไปบ้างก็ไม่ตาย  แต่คนจนหมดตัวละตายแน่ๆ  อันนี้ก็ไม่แน่เสมอไป  เพราะจริงๆแล้วความเสี่ยงที่แต่ละคนรับได้  เป็นเรื่องของ  นิสัย  และกรรมพันธุ์  ยกตัวอย่างเรื่องกีฬา  ที่บางคนบอกว่า  เล่นพวกแบตมินตันดีกว่าปลอดภัยดี  ออกกำลังเหมือนกัน  แต่บางคนบอกว่า  ชอบปีนเขา  ชอบกีฬาที่มันผาดโผน หรือบางคนบอกว่าต้องเล่นบันจี้จั้มพ์  ถึงจะสนุก  อันนี้ก็แล้วแต่ความคิดของแต่ละคน
             
                            รูปแบบการลงทุนในคอนโด

                                       1.  ซื้อคอนโดเพื่อปล่อยเช่า
                                       2.  จองคอนโด เพื่อเก็งกำไร  แล้วขายดาวน์
                                       3.  ซื้ออยู่เอง  แล้วได้กำไร  ราคาคอนโดที่เพิ่มขึ้น
               
                            สภาพคล่องสำคัญมั้ย

                    สภาพคล่อง  หมายถึง  ความสามารถในการเปลี่ยนหลักทรัพย์นั้นๆ  เป็นเงินสด  ในทางทฤษฎีแล้ว  แต่ละหลักทรัพย์มีความยาก-ง่าย ในการเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ไม่เท่ากัน
สิ่งที่เปลี่ยนเป็นเงินสดยาก  ถ้าหากเราจำเป็นต้องใช้เงิน  ก็ต้องยอมให้สัดส่วน  หรือยอมรับอัตราผลตอบแทนที่ต่ำลง  เช่น  ฝากประจำ  1  ปี  หากคุณจำเป็นต้องถอนก่อนครบกำหนด  คุณจะไม่ได้ดอกเบี้ยในช่วงปีนั้น  หรือที่ดิน  ซึ่งมีการซื้อขายเปลี่ยนมือยาก  หากคุณต้องการขาย  คุณอาจต้องยอมให้ส่วนลดแก่ผู้ซื้อ สภาพคล่องของสิ่งๆ หนึ่ง  จะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามเวลา  บางครั้งหุ้นตัวที่ไม่มีสภาพคล่อง  ( ไม่มีคนซื้อ - ขาย )  กลับมาเป็นที่สนใจ  ก็อาจมีการซื้อขายจำนวนมาก  หรือที่ดิน
ในบางจังหวะก็ซื้อขายได้คล่อง  ตามหลักทางการเงินแล้ว  หลักทรัพย์ที่มีสภาพคล่องน้อย

                     ดังนั้นหลักการหนึ่งของการบริหารการลงทุนคือต้อง  รู้ระยะเวลาในการลงทุน  หากจำเป็นที่จะต้องใช้เงินในระยะเวลาอันใกล้  ก็ไม่ควรลงทุนในสิ่งที่เป็นการลงทุนระยะยาวเช่น  คอนโด บ้าน หรือที่ดิน  แต่หากเราสามารถลงทุนในระยะยาวได้  แต่กลับนำเงินไปลงทุนในหลักทรัพย์ระยะสั้น  จะทำให้สูญเสียโอกาสไป  เช่น  นำเงินไปฝากประจำ  3 เดือนครบ 1 ปี ได้ดอกเบี้ย 2.5%  แต่หากนำเงินนั้นไปฝากประจำ  1  ปี  จะได้ดอกเบี้ย  3%

                                 ภาษี

                       ภาษีก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่เราควรให้ความสำคัญในการลงทุน  เพราะเงินภาษีที่เสียน้อยลง  ก็คือเงินออมที่ทากขึ้นนั่นเอง  การลงทุนในแบบต่างๆมีสิทธิทางภาษีไม่เท่ากัน  การฝากเงิน
อาจมีภาษีในดอกเบี้ยที่ได้รับ  แต่การเล่นหุ้น  ไม่เสียภาษี  หรือการ ลงทุนคอนโด สามารถใช้  หักลดหย่อนภาษีได้

 ขอบคุณ ( หนังสือ บริหารเงินเก็บให้เพิ่มเป็น 10 ล้าน  ผู้เขียน  มนตรี  แสวงเดชา )

1 ความคิดเห็น:

  1. ผมสนใจนำเนื้อหาไปจัดทำเป็นหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊ค รบกวนติดต่อกลับที่ prasong474@gmail.com ด้วยนะครับ

    ตอบลบ